X

AEON THAI MOBILE
AEON Thana Sinsap (Thailand) PLC FREE -On The App Store

Open

คณะกรรมการและผู้บริหาร

สารถึงผู้ถือหุ้น

ในปี 2564 ธุรกิจยังคงเผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอนของสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารและธุรกรรมออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยบริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการดำเนินการและการให้บริการให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ท้าทายนี้

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 1.6 ดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 6.2 ในปีก่อน เป็นผลจากมูลค่าการส่งออกสินค้าและการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของภาครัฐขยายตัว อีกทั้งการท่องเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการที่มีการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคม ปี 2564 ประเทศไทยยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ รวมทั้งเกิดความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครนในเดือนมีนาคม 2565 ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ธุรกิจบัตรเครดิตยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอตัวในครึ่งปีแรกของปี 2564 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อออกแคมเปญทางการตลาด โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและบริการในรูปแบบดิจิทัล เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม

สำหรับผลประกอบการปีบัญชี 2564 บริษัทฯ มีรายได้ จำนวน 20,791 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 จากปีก่อน รายได้ที่ลดลงเป็นผลจากผลประกอบการของบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด และการเมืองในประเทศพม่า อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลงจากร้อยละ 18 เหลือร้อยละ 16 ต่อปี และการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลลงจากร้อยละ 28 เหลือร้อยละ 25 ต่อปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 นอกจากนี้ยอดการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีรายได้อื่นจากหนี้สูญรับคืนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 16 จากปีก่อน ในปี 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 3,553 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 14.21 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้หากพิจารณากำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการในประเทศไทย บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 4,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปีก่อน ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหารและค่าใช้จ่ายอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีจำนวน 7,844 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารลดลงเนื่องจาก โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลดลงร้อยละ 3 ค่าใช้จ่ายการเดินทางลดลงร้อยละ 30 การชะลอกิจกรรมทางการตลาดส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลงร้อยละ 14 และการลดพื้นที่ในการเช่าอาคารสถานที่ทำให้ค่าเช่าลดลงร้อยละ 11 จากปีก่อน บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยที่ลดลงเหลือร้อยละ 2.41 และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7 จากปีก่อน จากการขยายพอร์ตสินเชื่อร้อยละ 4 จากสิ้นปีก่อน ส่งผลให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 19.2 และอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์อยู่ที่ร้อยละ 4.0

เรายังคงพัฒนาประสิทธิภาพส่วนงานภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหาร ดังนี้

  1. ปรับเปลี่ยนการบริหารงานผ่านระบบรวมศูนย์ (Shared Service Center) สำหรับหน่วยงาน Human Resource และ Admin Administrative เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเสริมสร้างความร่วมมือภายในกลุ่มบริษัทอิออน
  2. ปรับเปลี่ยนการให้บริการจากรูปแบบออฟไลน์เป็นระบบ E-service เช่น ฟังก์ชั่นการยืนยันตัวตน (e-KYC) บริการรับใบแจ้งชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-statement) และการสมัครบัตรเครดิตผ่าน AEON MOBILE Application เพื่อลดค่าใช้จ่ายและปริมาณการใช้กระดาษ (Paperless)
  3. พัฒนากระบวนการติดตามหนี้สินระยะที่ 2 รวมทั้งจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Data Centralization) ในรูปแบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความคล่องตัวในการจัดเก็บหนี้ ซึ่งช่วยลดอัตราส่วนของลูกหนี้ที่ค้างชำระ ตลอดจนรองรับการทำงานในรูปแบบออนไลน์ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ได้อย่างต่อเนื่อง
  4. ใช้ AI ในการสร้างแบบจำลองทางสินเชื่อและจัดทำโปรโมชั่นเพื่อเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้น

ด้านการตลาด เราเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยังทุกกลุ่มเป้าหมาย และจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมในรูปแบบดิจิทัลเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

  • โอนธุรกิจนายหน้าประกันภัยจากบริษัทอิออน อินชัวรันส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด มาดำเนินงานภายใต้บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานผ่านระบบ Digitalization
  • ร่วมลงทุนกับ บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ “บริษัท แรบบิท แคช จำกัด” เพื่อรุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 18 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
  • เสนอบริการ “Cardless Transfer via PromptPay” เป็นบริการเบิกถอนเงินสดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ด้วยการโอนวงเงินสินเชื่อเข้าบัญชีพร้อมเพย์ผ่าน AEON THAI MOBILE Application
  • เปิดตัวสินเชื่อ เติมสุข (Happy Loan) บริการสินเชื่อดิจิทัลประเภทกำหนดชำระคืนเป็นรายงวด ซึ่งใช้ข้อมูลทางเลือก (alternative data) ของลูกค้าโดยไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนในการอนุมัติขอสินเชื่อ
  • เปิดตัวบัตรเครดิตอิออน เวลล์เนส แพลทินัม ที่เน้นคุณภาพสมดุลชีวิตและสุขภาพโดยมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 15% ณ โรงพยาบาลและร้านขายยาที่ร่วมรายการ

เรายังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CLM) อย่างไรก็ตาม CLM ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 และความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศเมียนมาร์ ทั้งนี้รายได้รวมจากบริษัทย่อยในต่างประเทศมีจำนวน 1,281 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 ของรายได้รวมของบริษัทฯ

 

แผนงานในปี 2565

ปี 2565 เป็นปีที่ 30 ของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเผชิญกับความท้าทายหลายประการทั้งปัจจัยภายในและภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อ ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออก และการระบาดของ COVID-19 หลายระลอกในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์อันยาวนานและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรให้เติบโตและปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีเป้าหมายเพื่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน และให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นโดยมุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่คุณค่าภายใต้เครือข่ายของรูปแบบใหม่

  • ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เราดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น เปลี่ยนบัตรพลาสติกเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และลดปริมาณการใช้กระดาษ (Paperless) นอกจากนี้มีการปรับปรุงพื้นที่สำนักงานให้มีความสะอาด ปลอดภัย ยืดหยุ่น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
  • วางแผนเปิดตัวบัตรเครดิตร่วมกับผู้นำด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มทางเลือกในด้านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับลูกค้า และขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
  • พัฒนาฟังก์ชั่นการยืนยันตัวตน (e-KYC) ผ่าน AEON THAI MOBILE Application และสาขาของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้า
  • ปรับแพลตฟอร์มการทำงานให้เป็นรูปแบบบัตรดิจิทัล (Virtual card) ผ่าน AEON THAI MOBILE Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
  • ปฏิบัติตามมาตรฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (Personal Data Protection Act: PDPA) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายในการดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดในองค์กรรวมทั้งข้อมูลภายใน และข้อมูลภายนอก ซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
  • ดำเนินการจัดการด้านความเสี่ยงเพื่อสืบหาความเสี่ยงทางธุรกิจ และจัดการโครงสร้างองคร์กรเพื่อตอบสนองต่อความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เราตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรมควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้ทบทวนหลักการกำกับดูแลกิจการและประเด็นด้านความเสี่ยงเป็นประจำ เช่น นโยบายป้องกันการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น นโยบายห้ามรับของขวัญ ของกำนัล และนโยบายป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยได้สื่อสารไปทั้งระดับกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานทุกคน มุ่งเน้นส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

สุดท้ายนี้ เราขอขอบคุณ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา และเรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการเพื่อความเติบโตอย่างยั่งยืนในปีนี้และในปีต่อๆไป

นายมิทสึงุ ทามาอิ ประธานกรรมการ
นายซึโทะมุ โอโมะเดะระ รองประธานกรรมการ
และกรรมการผู้จัดการ
นางสุพร วัธนเวคิน กรรมการ
นายนันทวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการ
นางสาวสุริพร ธรรมวาทิตย์ กรรมการ
นายคาซึมาซะ โอชิมา กรรมการ
นายจุนอิจิ อิวะคะมิ กรรมการ
นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ กรรมการ
ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ กรรมการอิสระและ
ประธานกรรมการตรวจสอบ

ดร.มงคล เหล่าวรพงศ์ กรรมการอิสระและ
กรรมการตรวจสอบ
นายอิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ กรรมการอิสระและ
กรรมการตรวจสอบ
นายริวอิชิ ฮะซึโอะ กรรมการอิสระ
ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ กรรมการอิสระและ
ประธานกรรมการตรวจสอบ
ดร.มงคล เหล่าวรพงศ์ กรรมการอิสระและ
กรรมการตรวจสอบ
นายอิทธินันท์ สุวรรณจูฑะ กรรมการอิสระและ
กรรมการตรวจสอบ
นายซึโทะมุ โอโมะเดะระ รองประธานกรรมการและ
กรรมการผู้จัดการ
นางสุพร วัธนเวคิน กรรมการ
นายนันทวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการ
นายคาซึมาซะ โอชิมา กรรมการและผู้บริหารสูงสุด
สายงานบัญชีและการเงิน (CFO)
นางสาวสุริพร ธรรมวาทิตย์ กรรมการ
นายจุนอิจิ อิวะคะมิ กรรมการ
นางสาวสุพรรณี อัศวสุวรรณ์ เลขานุการบริษัท และ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส - ฝ่ายบริหารกลยุทธ์องค์กร
นางจิตติพร อิโนะอุเอะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่ายบริการลูกค้า
นายวิชชศร สุวรรณนาคินทร์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่ายควบคุมและจัดการองค์กร
นายสมศักดิ์ เหมเปี่ยม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส - ฝ่าย Collection - Project Management
นายมนะวุฒิ มิ่งวานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่ายพัฒนาระบบ
นายธวัชชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่ายสารสนเทศ
นางสาวนาฏอนงค์ ชมพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่ายกฎหมาย
นายอลงกรณ์ สัตตบุศย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่าย Corporate Governance and Control
นายอมร จิระชัยประสิทธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส – ฝ่าย Collection
นายสิทธิพงษ์ คณารักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส - หัวหน้าฝ่ายบัญชี
นายวิรัช สิทธิวราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส - ฝ่าย Marketing